Policy

นโยบายการป้องกันทุจริตและการให้หรือรับสินบน

       บริษัทฯ ไม่กระทำการอันใดที่เป็นการทุจริตและการให้หรือรับสินบนทุกรูปแบบที่ยอมรับไม่ได้ เพื่อประโยชน์ทางตรงหรือทางอ้อมต่อตนเอง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นตัวเงิน หรือไม่เป็นตัวเงินกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ได้ดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆของบริษัทฯ  รวมทั้งห้ามพนักงานทุกคน และทุกระดับเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตและการให้หรือรับสินบนในทุกรูปแบบและต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัตินโยบายป้องกันการทุจริตและการให้หรือรับสินบนนี้อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  1. บริษัทฯ จะทำการอบรมและสื่อสารให้กับพนักงานทุกคนและทุกระดับ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเมื่อมีการร้องขอ เพื่อให้เข้าใจและเกิดความตระหนักในการปฏิบัติตามนโยบายป้องกันการทุจริตและการให้หรือรับสินบนนี้
  2. พนักงานทุกระดับต้องไม่กระทำการอันใดที่เป็นการแสดงถึงการทุจริตและการให้หรือรับสินบนกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้ดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆของบริษัทฯ  เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ความได้เปรียบ และคงไว้ซึ่งการดำเนินธุรกิจ
  3. พนักงานทุกระดับต้องไม่ฝ่าฝืนการดำเนินการที่เข้าข่ายการทุจริตและการให้หรือรับสินบนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆของบริษัท และไม่เพิกเฉยหรือละเลยเมื่อพบเห็นการกระทำที่เป็นการแสดงถึงการทุจริตและการให้หรือรับสินบน ที่ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ
  4. บริษัทฯ จะให้ความเป็นธรรมและคุ้มครองบุคคลที่แจ้งเบาะแสและให้ความร่วมมือในการรายงานการทุจริตและการให้หรือรับสินบน ตามที่กำหนดไว้ในมาตรการคุ้มครองและรักษาความลับ
  5. พนักงานทุกระดับที่กระทำการอันใดที่แสดงถึงการทุจริตและการให้หรือรับสินบน จะต้องถูกดำเนินการสืบสวนและลงโทษ ตามกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ และ/หรืออาจได้รับโทษตามพันธสัญญา หากการกระทำนั้นผิดต่อข้อกำหนด พันธสัญญา

        แนวทางการปฏิบัติ

       ของขวัญหรือการเลี้ยงรับรอง

        บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ต้องพึงหลีกเลี่ยง หรือกระทำอย่างเปิดเผย ไม่ปกปิด ถูกต้องตามกาลเทศะ เหมาะสมกับสถานการณ์ และอยู่ในขอบเขตที่บริษัทฯ ยอมรับได้  และไม่ส่งผลกระทบที่จะก่อให้เกิดการทุจริตและการให้หรือรับสินบน และต้องไม่ขัดกับระเบียบปฏิบัติ ข้อบังคับ พันธสัญญาที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม

        ซึ่งของขวัญหรือการเลี้ยงรับรองในที่นี้ ได้แก่ เงินสด หุ้น พันธบัตร บัตรของขวัญ ตั๋ว บัตรเข้าชมการแสดงหรือการเล่นกีฬา ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายที่พักรับรอง อาหาร ของรางวัล รายการส่งเสริมการขาย การเสนอจ้างงานหรือบริการ และผลประโยชน์หรือสิ่งของที่มีมูลค่าใดๆที่ให้โดยผู้ค้า ผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมา ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ยกเว้นของขวัญที่มีมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท ที่มอบให้ตามธรรมเนียมและมารยาทกับประเพณีตามวาระโอกาส และการเลี้ยงรับรองที่มีมูลค่าไม่เกิน 10,000 บาท พอประมาณ ไม่บ่อยครั้ง และเหมาะสมกับโอกาส ทั้งนี้ต้องสามารถชี้แจงการกระทำต่างๆได้อย่างถูกต้องและชัดเจน

        ในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พนักงานต้องเปิดเผยการได้รับของขวัญจากผู้ค้า ผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมา ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯที่มีมูลค่าเกินกว่า 5,000 บาท และระดับหัวหน้างานขึ้นไปต้องเปิดเผยของขวัญหรือการเลี้ยงรับรองที่มีมูลค่าเกิน 10,000 บาท และส่งต่อให้กับคณะผู้บริหารเพื่อนำไปเป็นของรางวัลให้กับพนักงานในเทศกาลสำคัญ หรือเพื่อการกุศลต่อไปตามความเหมาะสม  

        การบริจาคเพื่อการกุศลและการสนับสนุน

        การบริจาคเพื่อการกุศลและเงินสนับสนุน พึงกระทำได้ตามขอบเขตที่ถูกต้องและเหมาะสมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนสังคม ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทฯ โดยมิได้มุ่งหวังผลตอบแทนทางธุรกิจ เช่น โครงการ CSR  การสนับสนุนทำนุบำรุงศาสนา การสนับสนุนและช่วยเหลืออุปกรณ์การเรียนหรือการศึกษา  โครงการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและชุมชน เป็นต้น แต่จะไม่เป็นการบริจาคหรือสนับสนุนเพื่อการให้สินบน และต้องกระทำอย่างเปิดเผย ไม่ปกปิด ถูกต้องตามกาลเทศะ เหมาะสมกับสถานการณ์ และไม่ขัดกับระเบียบปฏิบัติ ข้อบังคับ พันธสัญญาที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม การสนับสนุนทางการเมือง

        ทั้งนี้การบริจาคเพื่อการกุศลและการสนับสนุน ต้องได้รับการอนุมัติจากกรรมการผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจตามกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ ตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเก็บหลักฐาน เอกสารที่เกี่ยวข้องที่แสดงถึงการบริจาคเพื่อการกุศลและสนับสนุนอย่างครบถ้วน     

        การสนับสนุนทางการเมือง

         การสนับสนุนทางการเมือง หมายถึง การช่วยเหลือในนามบริษัท ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง หรือการให้สิ่งของหรือบริการ การโฆษณาหรือสนับสนุนพรรคการเมือง การบริจาคให้แก่องค์กรที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง เป็นต้น เว้นแต่เป็นการสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยที่กระทำได้ตามที่ข้อบังคับ หรือพันธสัญญากำหนด

       ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นในความเป็นกลางทางการเมือง พนักงานทุกระดับมีสิทธิเสรีภาพที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองภายในบริษัทฯ ไม่แอบอ้างความเป็นพนักงาน และไม่ใช้ทรัพยากรของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการใดๆ ทางการเมือง รวมถึงห้ามมิให้ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อชี้ชวน กดดัน หรือบังคับให้พนักงานในบริษัทฯ สนับสนุนกิจกรรม ใดๆ ทางการเมืองอย่างเด็ดขาด        

        ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่เป็นความลับ และทรัพย์สินทางปัญญา

        บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม รวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ไม่เป็นธรรม ความไม่ปลอดภัย และสภาพจิตใจของบุคคล

        บริษัทฯ จะควบคุมไม่ให้มีการยักยอกหรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทฯ ในทางที่ผิด รวมถึงคู่ค้าจะต้องไม่ใช้ทรัพย์สินและข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น ทั้งบริษัทและคู่ค้าที่มีทรัพย์สินทางปัญญาหรือมีข้อมูลที่เป็นความลับที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ต้องกำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเปิดเผยหรือใช้ทรัพย์สินและข้อมูลดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต  รวมถึงการปลูกฝังเพื่อให้พนักงานทุกระดับตระหนักถึงการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทฯ และคู่ค้า เช่น การพูดคุยหรือหารือเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความลับในที่สาธารณะ อันอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง

        ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

        บริษัทฯ ไม่ให้การสนับสนุนใดๆในการการดำเนินการที่อาจมีความต้องการส่วนตัวหรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ว่าโดยทางสายเลือด หรือทางอื่นใด เข้ามามีอิทธิพลในการตัดสินใจ หรือขัดขวาง หรือเป็นอุปสรรคต่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท อีกทั้งบริษัทฯ ให้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อมีการขัดแย้งทางผลประโยชน์เกิดขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดๆ บริษัทฯ จะทำการรายงานให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบในทันที และดำเนินการตามมาตรการสืบสวนต่อไป

     

นโยบายการบริหารความต่อเนื่องและพัฒนาอย่างยั่งยืน

         บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้บริการงานที่มีคุณภาพ จากการให้บริการเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ การจัดหาแรงงาน การเชื่อมประกอบโครงสร้าง และงานโครงการที่ทำสัญญาตกลงกับลูกค้า ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านการดำเนินงานที่เป็นเลิศ โปร่งใส การกำกับดูแลกิจการ ผลการดำเนินงานบุคลากร และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี และมีการพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นให้เกิดผลประโยชน์และเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีกรอบการบริหารจัดการการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นแนวปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน ตามมาตรฐานสากล

แนวทางการปฏิบัติ

-  ปฏิบัติตามพันธสัญญาและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
-  การนำพาองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วยแนวความคิดด้านการมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และรักษาความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง
-  ส่งเสริมการฝึกอบรม การให้ความรู้ การให้คำแนะนำ การให้คำปรึกษา และการมีส่วนร่วม ที่มุ่งเน้นวิธีปฏิบัติตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
-  สื่อสารนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างพฤติกรรมที่นำไปสู่วัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
-  พัฒนากลยุทธ์และกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง และลดผลกระทบจากการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

 

นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม

     บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีนโยบายดำเนินธุรกิจและให้ความสำคัญในการรับผิดชอบถึงผลประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง  ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม  รวมไปถึงการตอบแทนสังคม และใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง (Corporate Social Responsibilities: CSR) โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีจริยธรรม เคารพต่อสิทธิมนุษยชน หลีกเลี่ยงการดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา  การต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ  บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจพร้อมทั้งปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง  การปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม  เพื่อให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนร่วมกันทั้งองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อีกทั้งได้มีการสื่อสารให้พนักงานทุกระดับในองค์กรรับทราบเพื่อปฏิบัติตาม กำหนดให้มีการตรวจสอบและติดตามผลของการปฏิบัติโดยคณะผู้บริหารขององค์กร เพื่อการปรับปรุง แก้ไข หรือพัฒนาประยุกต์ใช้ในปีต่อๆไปตามความเหมาะสม โดยมีนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนี้

  1. การกำกับดูเเลกิจการที่ดี/การประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีนโยบายที่จะให้พนักงานทุกคนอยู่ร่วมกันภายใต้ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี น่าอยู่ และน่าทำงาน รวมถึงการปฏิบัติต่อพนักงานทุกระดับเสมือนเป็นบุคคลในครอบครัวที่อยู่ภายใต้หลังคาบ้านเดียวกัน ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน 
  • การบริหารงานบุคคล: บริษัทฯ มีระบบการบริหารงานบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ตั้งแต่การสรรหาบุคลากร การพัฒนาบุคลากร การจ่ายผลตอบแทนและสวัสดิการ รวมทั้งมีการอบรมให้พนักงานอย่างต่อเนื่อง มีการกำหนดผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม และการจัดสวัสดิการอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทฯยังส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีโอกาสที่จะก้าวหน้าในสายอาชีพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วม การให้คำปรึกษา และการเรียนรู้ในทุกระดับขององค์กร และพัฒนาทักษะเพื่อยกระดับการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพในรูปแบบของแรงงาน Multi-Skill
  • ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน: บริษัทฯ ระบบการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับสากล และกำหนดพร้อมทั้งสื่อสารนโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้กับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อสุขภาพอนามัยในระยะยาวของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย  ป้องกันการได้รับบาดเจ็บและเจ็บป่วยเกี่ยวกับการทำงาน  รวมถึงจัดให้มีผู้ชำนาญด้านความปลอดภัย  เพื่อช่วยสนับสนุนการปฏิบัติตามพันธสัญยาที่ต้องปฏิบัติตามให้เกิดการบรรลุผลในการดำเนินงานสอดคล้อง  พร้อมทั้งตรวจสอบและประเมินผลประสิทธิภาพระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อย่างสม่ำเสมอให้เกิดพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำจำกัดความ “ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำงานด้วยความปลอดภัย ใส่ใจอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน”

 

  1. การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะไม่กระทำการอันใดรวมทั้งห้ามพนักงานทุกคนและทุกระดับเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตและการให้หรือรับสินบนทุกรูปแบบที่ยอมรับไม่ได้ เพื่อประโยชน์ทางตรงหรือทางอ้อมต่อตนเอง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นตัวเงินหรือไม่เป็นตัวเงินกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้ดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆของบริษัทฯ  ที่ครอบคลุมตามกฎระเบียบและเกณฑ์การยอมรับขององค์กรในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ของขวัญหรือการเลี้ยงรับรอง การบริจาคเพื่อการกุศลและการสนับสนุน การสนับสนุนทางการเมือง ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น และต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัตินโยบายป้องกันการทุจริตและการให้หรือรับสินบนนี้อย่างเคร่งครัด
     
  2. การเคารพสิทธิและการปฎิบัติต่อเเรงงานอย่างเป็นธรรม/การเคารพสิทธิมนุษยชน
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องความเสมอภาค (ความเท่าเทียม) ความเป็นธรรม นอกจากนี้ยังเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชน โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อพนักงานอันมาจากพื้นฐานความแตกต่างในลักษณะส่วนบุคคล การล่วงละเมิด เสรีภาพในการสมาคมเพื่อการเจรจาต่อรอง และไม่กระทำการอันใดที่ขัดต่อพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามทั้งทางตรงและทางอ้อม บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กที่จะสามารถเติบโตและได้รับการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจให้มีสุขภาพดี จึงมีนโยบายไม่รับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 15  ปีบริบูรณ์ทุกกรณีเข้าทำงาน รวมถึงการห้ามไม่ให้แรงงานบังคับและแรงงานโทษในทุกกรณี   บริษัทฯ ได้กำหนดบทลงโทษทางวินัยที่เหมาะสมกับความผิด โดยพิจารณาจากความหนักเบาของความผิด ตามที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานของบริษัทฯ และจะปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างให้เกียรติกัน เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิส่วนบุคคล พร้อมสื่อสารทำความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ตามประเด็นดังนี้
  • การไม่เลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด:  บริษัทฯ จะให้ความเคารพและไม่เลือกปฏิบัติในลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว สัญชาติ เพศ สถานภาพสมรส ความเบี่ยงเบนทางเพศ อายุ การตั้งครรภ์ ความพิการ ชาติกำเนิด การเป็นสมาชิกสหภาพ ความคิดเห็นต่างทางการเมือง เป็นต้น
  • แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก: บริษัทฯ ห้ามไม่ให้มีการใช้แรงงานบังคับ รวมไปถึงแรงงานโทษ รวมถึงแรงงานเพื่อขัดหนี้ ไม่รับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ทุกกรณีเข้าทำงาน ทั้งภายในสถานประกอบการของบริษัทฯ เอง หรือในสถานที่ปฏิบัติงานของลูกค้า และจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการใช้แรงงานเด็ก
  • เสรีภาพในการสมาคมหรือการรวมกลุ่ม: บริษัทฯ ไม่แทรกแซงกิจกรรมในสิทธิส่วนบุคคลที่จะยึดถือปฏิบัติตามหลักความเชื่อ หรือความจำเป็นตามเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความเบี่ยงเบนทางเพศ ความพิการ การเป็นสมาชิกสหภาพ หรือการมีส่วน ร่วมทางการเมือง โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องไม่มีผลกระทบต่องาน หรือบริษัทโดยส่วนรวม

 

  1. ความรับผิดชอบต่อลูกค้า
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการงานที่มีคุณภาพ จากการให้บริการเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ การจัดหาแรงงาน การเชื่อมประกอบโครงสร้าง การให้บริการงานด้านไฟฟ้าและเครื่องมือวัด และงานโครงการตามข้อกำหนดของลูกค้าและพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าสูงสุด บริษัทฯ มีความตระหนักว่าการที่จะให้บริการที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอได้ นอกเหนือจากการตรวจสอบ และควบคุมการดำเนินงานอย่างเข้มงวดแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องมีการบริหารงานที่ดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งการเฝ้าติดตามและพิจารณาประเด็นภายในและภายนอก ความต้องการหรือความคาดหวังจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง  เพื่อตอบสนองอย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้ผู้บริหารระดับสูงได้สื่อสารนโยบายคุณภาพของบริษัทไปยังพนักงานทุกระดับให้รับทราบ และทำความเข้าใจให้เกิดความตระหนัก และใช้เป็นกรอบในการกำหนดวัตถุประสงค์คุณภาพของแต่ละกิจกรรม พร้อมสื่อสารนโยบายคุณภาพให้กับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเมื่อมีการร้องขอ ภายใต้คำจำกัดความ “ดำเนินงานตามพันธสัญญา สร้างความพึงใจให้กับลูกค้า พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง  มุ่งเน้นเรื่องงานบริการ”
     
  2. การร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม
    บริษัทฯ ยึดถือนโยบายที่ต้องดูแลและสานสัมพันธ์กับชุมชนใกล้เคียง จึงสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนอย่างสม่ำเสมอ โดยดำเนินโครงการต่างๆ ที่คำนึงถึงความเหมาะสมและประโยชน์ที่ชุมชนและสังคมจะพึงได้รับ  เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงส่งพนักงานของบริษัทฯ เข้าร่วมกิจกรรมชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมทำงานอาสาสมัคร และกิจกรรมสาธารณประโยชน์ร่วมกับชุมชนเป็นประจำและสม่ำเสมอ เช่น โครงการปลูกป่าชายเลน โครงการเก็บขยะและสิ่งปฏิกูลบริเวณชายทะเล โครงการเก็บขยะและปลูกปะการัง โครงการสร้างอาคารเรียน โครงการสร้างห้องน้ำให้กับศาสนสถาน โครงการให้อาหารกลางวันและทุนการศึกษาแก่เด็กพิเศษ โครงการปลูกป่าและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นต้น
     
  3. การดูเเลรักษาสิ่งเเวดล้อม
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด ได้มีการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน ให้พนักงานทุกระดับชั้นในองค์กรถือเป็นแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และจะต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามต่างๆ รวมถึงจัดระบบภายในเพื่อควบคุมและป้องกันประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดให้เกิดผลกระทบและส่งผลต่อการสูญเสียสมดุลทางธรรมชาติ  ภาวะโลกร้อน  มลพิษทางอากาศ  มลพิษทางน้ำ  ขยะทั่วไป/ขยะมูลฝอย   ของเสียอันตราย  สารเคมีอันตราย  การใช้ทรัพยากร  และคุณภาพชีวิต  อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการให้สื่อสารให้ความรู้กับพนักงานทุกระดับชั้นเพื่อให้เกิดความตระหนักและร่วมรณรงค์ในการประหยัดทรัพยากรและพลังงานด้านต่างๆ เช่นไฟฟ้า น้ำประปา น้ำมัน และกระดาษ ภายใต้คำจำกัดความ ดังนี้ “สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม
     
  4. ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่เป็นความลับ และทรัพย์สินทางปัญญา
    บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ไม่เป็นธรรม ความไม่ปลอดภัย และสภาพจิตใจของบุคคล ควบคุมไม่ให้มีการยักยอกหรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทฯ ในทางที่ผิด รวมถึงคู่ค้าจะต้องไม่ใช้ทรัพย์สินและข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น ทั้งบริษัทและคู่ค้าที่มีทรัพย์สินทางปัญญาหรือมีข้อมูลที่เป็นความลับที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ต้องกำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเปิดเผยหรือใช้ทรัพย์สินและข้อมูลดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต  รวมถึงการปลูกฝังเพื่อให้พนักงานทุกระดับตระหนักถึงการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทฯ และคู่ค้า เช่น การพูดคุยหรือหารือเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความลับในที่สาธารณะ อันอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง
     
  5. การเผยเเพร่นวัตกรรมจากการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสีย
    บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้มีนวัตกรรมทั้งภายในองค์กร และความร่วมมือกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกองค์กร ซึ่งนวัตกรรมและการสนับสนุนจะต้องเกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกับความเหมาะสมและเพียงพอที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรอย่างสูงสุดและสามารถเผยแพร่นวัตกรรมจากการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแก่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ การประหยัดกระดาษ ที่ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแสดงเจตจำนงและความมุ่งมั่นในการใช้ทรัพยากรในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร และยังมุ่งเน้นการประหยัดพลังงาน ซึ่งใช้เทคโนโลยีในรูปแบบ Social Medial ต่างๆ ที่มีปัจจุบันในการดำเนินงานแทนการใช้กระดาษ เช่น การสื่อสาร การส่งข้อมูล การบันทึกเอกสาร การลงลายมือชื่อ การส่งรายงาน และการเก็บเอกสารในรูปแบบ Electronic File เป็นต้น

นโยบายการป้องกันปัญหายาเสพติด และแอลกอฮอล์ในสถานประกอบการ

      บริษัทฯ มีความห่วงใยต่อสุขภาพของพนักงาน และเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล จึงได้กำหนดนโยบายการป้องกันปัญหายาเสพติดและแอลกอฮอล์ในสถานประกอบการ ไว้เพื่อถือปฏิบัติโดยทั่วกัน ดังนี้

  1. บริษัทฯ ถือว่ายาเสพติด คือมหันตภัยร้าย ที่ทางบริษัท และพนักงานทุกคนต้องร่วมมือดำเนินการรณรงค์ป้องกัน และขจัดปัญหายาเสพติด ให้หมดสิ้นไปจากบริษัทฯ
  2. ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจในการแจ้ง เมื่อพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือให้ข้อมูลข่าวสาร และอำนวยความสะดวกในการดำเนินการหรือตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
  3. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับจะต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเป็นผู้นำอบรม ดูแล จูงใจให้พนักงานทุกคนห่างไกลจากยาเสพติด
  4. บริษัทฯ จะถือว่าผู้ติดยาเสพติด คือ ผู้ป่วย และสามารถสุ่มตรวจพนักงานได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
  5. ห้ามมิให้มีการดื่มสุรา หรือยาเสพติดใดๆ ในบริเวณสถานที่ของบริษัทฯ หรือสถานที่ซึ่งบริษัทฯ เช่าทำงาน หรือพื้นที่ของลูกค้า หรือพื้นที่ปฏิบัติงานโครงการ

        แนวทางปฏิบัติ

  • บริษัทฯ มีอำนาจขอทำการสุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดกับพนักงานตามความจำเป็นและเหมาะสม และผลการตรวจต้องเป็นศูนย์ และหากพนักท่านใดมีผลการตรวจที่ผิดปกติ ต้องได้รับบทลงโทษตามกฎระเบียบของบริษัทฯ หรือตามที่พันธสัญญากำหนด หากพันธสัญญาได้มีการกำหนดไว้
  • ดำเนินการเผยแพร่ ประชุมชี้แจง หรือจัดอบรมโครงการสร้างเสริมสุขภาพ การดูแลสุขภาพร่างกาย จิตใจ และส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดไปสู่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของพนักงานให้มีความเข้าใจในโครงการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
  • ส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อมีสุขภาพที่ดี และจะได้ห่างไกลยาเสพติด                                

นโยบายการเตรียมความพร้อมและรับมือกับไวรัสโคโรน่า

           กรรมการผู้จัดการได้กำหนดและประกาศให้พนักงานทุกคนใน บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด รับทราบ และถือปฏิบัติโดยทั่วกันเกี่ยวกับนโยบายการเตรียมความพร้อมและรับมือกับไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  1. สำรวจพนักงานในองค์กรหรือคนใกล้ชิดว่าได้เดินทางไปประเทศสุ่มเสี่ยงมาหรือไม่? ถ้ามีควรให้พนักงานคนดังกล่าวหยุดทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องมาที่ทำงาน เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะสกัดกั้นการแพร่เชื้อได้
  2. ห้ามไม่ให้พนักงานเดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง ถ้ายังพบว่ามีการเดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง บริษัทจะมีนโยบายการสั่งให้พักงานชั่วคราวจนกว่าภาวะการระบาดฯ จะสงบลง
  3. กำหนดแผนปฏิบัติการเชิงรุก หรือแผนการบริหารความเสี่ยงขององค์กรหากมีกรณีฉุกเฉิน (BCP) ทั้งในเชิงการดูแลพนักงานและมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับสังคม สมมุติว่าหากเกิดกรณีมีพนักงานติดเชื้อไวรัสนี้จริงก็ควรรีบปฏิบัติให้หยุดการแพร่ระบาดของโรค และต้องไม่มีการปกปิดข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือสาธารณชน เพียงเพื่อป้องกันชื่อเสียงแต่หน่วยงานขององค์กร
  4. หากพบว่ามีพนักงานป่วยเป็นจำนวนมาก ควรปิดการทำงานหรือสถานที่ทำงานชั่วคราว
  5. พิจารณาเลื่อนหรืองดการจัดกิจกรรมที่ต้องชุมนุมคนจำนวนมาก

แนวทางการปฏิบัติ

  • ทางบริษัทฯ กำหนดให้มีการตรวจร่างกายเบื้องต้นของพนักงานหลังจากที่มีการ Tool Box Meeting แล้วเสร็จ ได้แก่ การวัดอุณหภูมิ การตรวจสอบการสวมใส่หน้ากากอนามัย การสอบถามประวัติการเดินทางและการทำกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง เป็นต้น
  • จัดอบรมให้ความรู้และวิธีการป้องกันเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งมีการทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่การทำงานทุกวัน อาทิ ที่จับประตู และในส่วนที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ ตลอดจนยานพาหนะของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยตลอดเวลา
  • หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจะต้องทิ้งลงในถังพิเศษเท่านั้น และบริษัทยังได้กำชับให้พนักงานทุกคนที่ให้บริการหรือซ่อมบำรุงแก่ลูกค้านอกสถานที่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเดียวกันด้วย
  • ปฏิบัติตามแผนเตรียมการและตอบสนองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไวรัสโคโรน่า อย่างเคร่งครัด

 

นโยบายสิ่งแวดล้อม

สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

       บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มีคุณภาพ พร้อมกับการจัดการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในการดำเนินงานขององค์กรควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและป้องกันมลภาวะจากการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดและการป้องกันการหกรั่วไหลของกากอุตสาหกรรม การดำเนินงานตามพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามและข้อกำหนดอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และได้กำหนดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อม จะสื่อสารไปยังพนักงาน และผู้ที่ทำงานในนามของบริษัททุกคน เพื่อความเข้าใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการที่จะปรับปรุงระบบการทำงานให้ลดและป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน นโยบายสิ่งแวดล้อมนี้ พร้อมจะเผยแพร่ต่อสาธารณะชนเมื่อมีการร้องขอ

                 แนวทางปฏิบัติ

        ควบคุมและป้องกันการหกรั่วไหลของน้ำทิ้งและกากอุตสาหกรรมจากการจัดเก็บ รวบรวมและขนส่ง

        ควบคุมและป้องกันจากการหกรั่วไหลของสารเคมีและน้ำมันในพื้นที่ปฏิบัติงาน

        ควบคุม ป้องกัน และลดมลภาวะจากการขนส่ง

        ควบคุมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ น้ำ ไฟฟ้า น้ำมัน กระดาษ

        ส่งเสริมและให้ความรู้กับผู้ปฏิบัติงานให้มีความตระหนักในการดำเนินงานควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

        ควบคุมและป้องกันการเกิดเหตุฉุกเฉินเพลิงไหม้จากการจัดเก็บ รวบรวม ขนส่งและหกรั่วไหลของสารเคมีและกากอุตสาหกรรม

 

นโยบายสิทธิมนุษยชน

      บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องความเสมอภาค (ความเท่าเทียม) ความเป็นธรรม นอกจากนี้ยังเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชน โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อพนักงานอันมาจากพื้นฐานความแตกต่างในลักษณะส่วนบุคคล การล่วงละเมิด เสรีภาพในการสมาคมเพื่อการเจรจาต่อรอง และไม่กระทำการอันใดที่ขัดต่อพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามทั้งทางตรงและทางอ้อม บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กที่จะสามารถเติบโตและได้รับการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจให้มีสุขภาพดี จึงมีนโยบายไม่รับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์เข้าทำงานในบริษัทฯ ทุกกรณี รวมถึงการห้ามไม่ให้แรงงานบังคับและแรงงานโทษในทุกกรณี   บริษัทฯ ได้กำหนดบทลงโทษทางวินัยที่เหมาะสมกับความผิด โดยพิจารณาจากความหนักเบา ของความผิด ตามที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานของบริษัทฯ และจะปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างให้เกียรติกัน เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิส่วนบุคคล พร้อมสื่อสารทำความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

        แนวทางการปฏิบัติ

       การเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด (Discrimination and Harassment)

  1. บริษัทฯ ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ความเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  2. บริษัทฯ จะปฏิบัติกับพนักงานในเรื่องการจ้างงาน ค่าตอบแทนการทำงาน การให้สวัสดิการ การพัฒนา และอบรม การพิจาณาเลื่อนขั้น หรือเลื่อนตำแหน่ง การกำหนดวินัยและการลงโทษ การเลิกจ้าง หรือการเกษียณอายุโดยอยู่บนพื้นฐานของความสามารถในการปฏิบัติงาน ประสิทธิภาพทำการงานมากกว่าบุคลิกลักษณะส่วนบุคคล
  3. บริษัทฯ จะปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามในสิทธิ หน้าที่ของพนักงานทุกประเภทสัญญาจ้าง  และเงื่อนไขการบริการกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  4. บริษัทฯ จะไม่ขัดขวาง หรือกระทำการใดๆ ที่จะเป็นผลกระทบต่อการใช้สิทธิของพนักงาน หรือกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อกิจการของบริษัทฯ ตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้
  5. บริษัทฯ จะให้ความเคารพ และไม่เลือกปฏิบัติในลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว สัญชาติ เพศ สถานภาพสมรส ความเบี่ยงเบนทางเพศ อายุ การตั้งครรภ์ ความพิการ ชาติกำเนิด การเป็นสมาชิกสหภาพ ความคิดเห็นต่างทางการเมือง เป็นต้น
  6. บริษัทฯ ไม่กีดกันในการจ้างงาน การให้บริการ การจ่ายค่าตอบแทน การเข้ารับการฝึกอบรม การเลื่อนตำแหน่ง การสิ้นสุดสภาพการจ้างงาน หรือการเกษียณ ด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความพิการ การเบี่ยงเบนทางเพศ การมีส่วนร่วมทางการเมือง หรือการเป็นสมาชิกสหภาพ เป็นต้น
  7. บริษัทฯ จะคัดเลือกบรรจุพนักงาน และจ่ายค่าตอบแทนโดยพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล กับลักษณะงานและตำแหน่งเป็นหลัก โดยปราศจากการแบ่งแยก เชื้อชาติ สีผิว เพศ อายุ สัญชาติ ความนิยมทางเพศ สถานภาพทางทหาร สถานภาพสมรส  หรือความบกพร่องทางกายภาพ ซึ่งไม่มีผลกระทบทบกับตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ
  8. บริษัทฯ สนับสนุนให้พนักงานได้รับความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากความรู้ในงาน โดยบริษัทฯ จะส่งพนักงานเข้าอบรมความรู้ที่เกี่ยวข้องในการทำงาน หรือเพื่อเพิ่มทักษะในงาน หรือสำหรับเลื่อนตำแหน่งเพื่อเพิ่มทักษะ และเป็นการพัฒนาตนเองของพนักงาน ตลอดจนเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน สำหรับการเลื่อนตำแหน่งนั้น บริษัทฯ จะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ของแต่ละบุคคลเป็นหลัก โดยพนักงานต้องมีความรู้ในงาน และทักษะในการบริหารบุคลากรในหน่วยงาน
  9. การจ่ายค่าตอบแทน บริษัทฯ จะพิจารณาจากงานที่มีลักษณะเดียวกัน เหมือนกันรวมทั้งปริมาณที่เท่ากัน บริษัทฯ จะทำการจ่ายค่าตอบแทนที่เท่ากัน ไม่ว่าพนักงานนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
  10. ความเสมอภาคทางเพศ บริษัทฯ จะปฏิบัติต่อพนักงานชาย และหญิง ด้วยความเสมอภาค เว้นแต่ลักษณะงานหรือสภาพของงานที่ไม่อาจปฏิบัติเหมือนกันได้
  11. บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้พนักงานทุกคนแสดงพฤติกรรม รวมถึงการแสดงออกท่าทาง การใช้คำพูด การสัมผัสทางกาย หรือการกระทำที่มีลักษณะการกดขี่ บังคับ คุกคามทางเพศ ข่มขืนกระทำชำเรา หรือการเอารัดเอาเปรียบทางเพศ
  12. บริษัทฯ ไม่มีนโยบายที่จะบังคับสตรีตรวจการตั้งครรภ์ และคุมกำเนิดเพื่อประโยชน์ในการว่าจ้าง หรือบังคับให้ออกจากงาน บริษัทฯ จะปฏิบัติต่อสตรีที่ตั้งครรภ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
  13. บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้มีการลงโทษพนักงานโดยการทำร้ายร่างกาย เช่น เฆี่ยนตี หรือว่ากล่าวด้วยคำพูดที่หยาบคาย พูดจาเสียดสี การข่มขู่คุกคามทางกายและจิตใจ หรือโดยการตัดสิทธิประโยชน์ของพนักงาน

แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก

  • บริษัทฯ ห้ามไม่ให้มีการใช้แรงงานบังคับ รวมไปถึงแรงงานโทษ รวมถึงแรงงานเพื่อขัดหนี้
  • แรงงานต่างด้าวหรือแรงงานอพยพที่เข้ามาปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องตามพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตามอย่างครบถ้วนและเคร่งครัด รวมไปถึงการสนับสนุนข้อมูล ให้ความรู้ และสื่อสารในรูปแบบภาษาที่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานและการอยู่ร่วมกัน
  • ไม่รับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์เข้าทำงานในบริษัทฯ ทุกกรณี
  • พนักงานมีสิทธิในการลาออกจากการเป็นพนักงาน โดยมีระยะการแจ้งล่วงหน้าที่เหมาะสม สำหรับกรณีของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ที่นอกเหนือจากพนักงานในบริษัทฯ จะต้องไม่ยกเลิกสัญญาจ้างอย่างไม่เป็นธรรมโดยที่ไม่สามรถชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนตามพันธสัญญาที่กำหนดไว้เพื่อการปฏิบัติตาม
  • บริษัทฯ  ไม่ให้มีการจ้างงานหรือการใช้ประโยชน์จากแรงงานเด็กทั้งภายในสถานประกอบการของบริษัทฯ เอง หรือในสถานที่ปฏิบัติงานของลูกค้า และจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการใช้แรงงานเด็ก

เสรีภาพในการสมาคมหรือการรวมกลุ่ม

  • บริษัทฯ ไม่แทรกแซงกิจกรรมในสิทธิส่วนบุคคลที่จะยึดถือปฏิบัติตามหลักความเชื่อ หรือความจำเป็นตามเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา  ความเบี่ยงเบนทางเพศ ความพิการ การเป็นสมาชิกสหภาพ หรือการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องไม่มีผลกระทบต่องาน หรือบริษัทโดยส่วนรวม
  • บริษัทฯ เคารพสิทธิในการสมาคมหรือการรวมกลุ่มตามเจตจำนง รวมถึงสิทธิในการร่วมกันเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้การรวมกลุ่มต้องไม่ขัดต่อข้อกำหนดกฎหมาย หรือพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม

นโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

 เพื่อกำหนดทิศทางและให้การสนับสนุนการดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับสารสนเทศของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามหรือสอดคล้องกับข้อกำหนดทางธุรกิจ กฎหมาย และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บริษัทต้องจัดให้มีหน้าที่ดูแลให้มีการกำหนดนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัททำการสื่อสารนโยบายดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องให้กับผู้ทำงานภายใต้การควบคุมและดูแลของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างหน่วยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและหน่วยงานด้านอื่นภายในบริษัท เพื่อให้มีการประสานงานและสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กำหนดให้มีการอบรมหรือให้ความรู้กับผู้ทำงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ตหรือข้อมูลสารสนเทศใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ทำงานมีความตระหนักรับรู้เข้าใจและสามารถป้องกันตนเองจากภัยคุกคามดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งจัดให้มีการทบทวนนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท รวมถึงจัดให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายความมั่นคลและปลอดภัยของข้อมูลอย่างน้อยปีละครั้ง และจัดทำแผนเพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาที่พบ

ระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและแนวทางการปฏิบัติ

  • กำหนดให้มีการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ต้องทำการกรอกข้อมูลคำขอเข้าใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) โดยยื่นคำขอกับเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ E-mail
  • ในกรณีที่พบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ที่ไม่รู้จัก ห้ามผู้ใช้งานกดยืนยันหรือเรียกเข้าดูข้อมูลเป็นอันขาด และให้แจ้งหน่วยงานสารสนเทศในทันที
  • ไม่ควรบันทึกหรือเก็บรหัสผ่าน (Password) ไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ หรือติดตั้งไว้หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
  • ควรสำรองข้อมูลไว้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดือนละครั้ง, ไตรมาสละครั้ง เป็นต้น
  • ควรทำการร้องขอให้หน่วยงานสารสนเทศทำการตรวจเช็คและตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง
  • ห้ามทำการติดตั้ง software หรือ application ที่นอกเหนือจากที่บริษัทกำหนดให้ใช้เพื่อความจำเป็นในการดำเนินงาน
  • ห้ามเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เป็นความลับเกี่ยวกับงานของหน่วยงานที่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet)
  • กำหนดสิทธิ์การเข้าถึง Server โดยใช้ Username กับ Password ที่มาจากหน่วยงานสารสนเทศเท่านั้น
  • ห้ามใช้ทรัพยากรและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อกระทำการอันผิดกฎหมายและขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม
  • ห้ามก่อกวน ขัดขวาง หรือทำลายให้ทรัพยากรและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัทเกิดความเสียหาย

นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน

 ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำงานด้วยความปลอดภัย ใส่ใจอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

             บริษัท เอ็กซ์เพิททีม  และบริษัทในเครือ  มีความมุ่งมั่นที่จะให้ทุกหน่วยงานได้บรรลุถึงมาตรฐานสูงสุด  ทางด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงาน  และยังคงไว้หรือให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ   และให้บรรลุผลตามนโยบายนี้ บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายความปลอดภัย  อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงาน  และจะมีการดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. เพื่อแน่ใจว่าการจัดการด้านความปลอดภัย  สุขภาพอนามัยในระยะยาวของพนักงาน  และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม  รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้รับการดูแลเท่าเทียมกับวัตถุประสงค์อื่นของธุรกิจ ให้เกิดสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและน่าอยู่น่าทำงาน เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บ และเจ็บป่วยเกี่ยวกับการทำงาน
  2. ยอมรับว่าความรับผิดชอบในการจัดการด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงานต้องการองค์กรที่มีโครงสร้างที่ดี  การมีพนักงานที่มีความสามารถ  และยินดีปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท ที่ซึ่งมีความเหมาะสมกับจุดประสงค์ ขนาด และบริบทขององค์กรและลักษณะเฉพาะของความเสี่ยงและโอกาสด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย          และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  3. จัดให้มีผู้ชำนาญด้านความปลอดภัย  กับฝ่ายจัดการโครงการ เพื่อช่วยสนับสนุน  การปฏิบัติตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ ประกาศ มาตรฐานที่กำหนด  รวมถึงโปรแกรมงาน และข้อปฏิบัติหรือข้อกำหนดอื่นๆ ให้เป็นไปตามมาตรการ เพื่อการบรรลุผลในการดำเนินการให้เกิดความสอดคล้อง
  4. จัดให้มีระบบการจัดการความปลอดภัย  อันประกอบด้วย  มาตรฐานกระบวนการ  วิธีการทำงาน  การวิเคราะห์อันตราย ซึ่งระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในงานอย่างเป็นระบบ  และควบคุมป้องกัน  การกำจัดหรือลดความเสี่ยงภัยเนื่องจากการดำเนินการนั้น รวมถึงให้เป็นกรอบการทำงานสำหรับการตั้งวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  5. มุ่งมั่นในการป้องกันการบาดเจ็บ เจ็บป่วยจากการทำงาน รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของพนักงานให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน โดยให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานตามรายการ  และระยะเวลาที่กำหนดให้สอดคล้องกับข้อกำหนด/พันธสัญญา และข้อกำหนดของลูกค้า
  6. จัดให้มีระบบร่วมกันกับลูกค้า  ระบบความรับผิดชอบ  และมาตรการที่ตรวจสอบได้ที่สอดคล้องกับแผนความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานหน้างาน
  7. เพื่อให้แน่ใจว่ามีระบบการสื่อสารหลายทางที่เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้วยการประชุม การนำเสนอ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการสื่อสาร ที่ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย การสื่อสารภายในและภายนอก ที่เหมาะสมตามรูปแบบ วิธีการ ระดับชั้น หน้าที่การงาน ความสามารถในการรับรู้ และช่องทางที่เหมาะสม
  8. ดำเนินการประเมินผล  เพื่อแน่ใจว่าพนักงานมีความสามารถในการปฏิบัติตามหน้าที่ของตน
  9. วัดผลและควบคุมการทำงานของผู้รับเหมา ผู้รับจ้างช่วง และผู้รับจ้างที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติมาตรฐานและเจตนาตามที่กำหนดไว้ในพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม
  10. ตรวจสอบกระบวนการปฏิบัติงาน  กิจกรรมต่างๆให้สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติ  หรือเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด  เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย.
  11. ใช้เครื่องมือในการสอบสวนอุบัติเหตุ  และอุบัติการณ์อื่นใด  เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ  เพื่อให้ได้ผลวิเคราะห์ในอันที่จะระบุความบกพร่องของการควบคุมในการบริหารจัดการ
  12. พัฒนาและธำรงไว้ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบ  และกำหนดการดำเนินการโดยละเอียด เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม
  13. ตรวจสอบและประเมินผลประสิทธิภาพระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อเตรียมการสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  14. มุ่งมั่นให้คำปรึกษา และสนับสนุนให้พนักงานทั้งหมดที่ซึ่งหมายรวมถึงผู้ทำงาน และตัวแทนผู้ทำงานมีความตระหนักในการมีส่วนร่วมและให้คำปรึกษาสำหรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  15. ปฏิบัติตามข้อกำหนด และระเบียบปฏิบัติเพื่อรักษาระดับมาตรฐานตามระบบบริหารคุณภาพ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยฯ
  16. ให้อำนาจทุกคนในองค์กรใช้สิทธิในการหยุดปฏิบัติงานภายใต้สภาวะที่ไม่ปลอดภัย

 แนวทางการปฏิบัติ

  • ป้องกันและเตรียมการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ควบคุมและป้องกันเพื่อไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงานถึงขั้นหยุดงานเกินกว่า 3 วันในพื้นที่ปฏิบัติงาน
  • ควบคุมและป้องกันเพื่อไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ปฏิบัติงานของลูกค้า
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ให้ความรู้ ให้คำแนะนำ และดำเนินการกับผลการรายงานเหตุการณ์และพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย
  • ควบคุม และป้องกันไม่ให้มีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน

นโยบายคุณภาพ

ดำเนินงานตามพันธสัญญา   สร้างความพึงใจให้กับลูกค้า  พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง  มุ่งเน้นเรื่องงานบริการ

           บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการงานที่มีคุณภาพ จากการให้บริการเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ การจัดหาแรงงาน การเชื่อมประกอบโครงสร้าง และงานโครงการตามข้อกำหนดของลูกค้าและพันธสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าสูงสุด บริษัทมีความตระหนักว่าการที่จะให้บริการที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอได้ นอกเหนือจากการตรวจสอบ และควบคุมการดำเนินงานอย่างเข้มงวดแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องมีการบริหารงานที่ดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งการเฝ้าติดตามและพิจารณาประเด็นภายในและภายนอก ความต้องการหรือความคาดหวังจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบสนองอย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้ผู้บริหารระดับสูงได้สื่อสารนโยบายคุณภาพของบริษัทไปยังพนักงานทุกระดับให้รับทราบ และทำความเข้าใจให้เกิดความตระหนัก และใช้เป็นกรอบในการกำหนดวัตถุประสงค์คุณภาพของแต่ละกิจกรรม พร้อมสื่อสารนโยบายคุณภาพให้กับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเมื่อมีการร้องขอ       

        แนวทางการปฏิบัติ

  • มุ่งมั่นให้บริการบุคลากรที่พร้อมและเพียงพอปฏิบัติงานตามที่ลูกค้าร้องขอ
  • มุ่งมั่นให้บริการ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน
  • พัฒนาคุณสมบัติของบุคลากรให้พร้อมในการปฏิบัติงานตามความต้องการของลูกค้า
  • ตรวจเช็คและตรวจซ่อมเครื่องมือ เครื่องจักรตามแผนงานที่กำหนด
  • พัฒนากระบวนการจัดส่งของให้ทันเวลาตามที่ลูกค้ากำหนด
  • พิ่มความพึงพอใจของลูกค้าจากการให้บริการที่มีคุณภาพ
  • พัฒนาความรู้ของพนักงานตามความต้องการของลูกค้า
  • บำรุงรักษาเชิงป้องกันของเครื่องจักรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  • ติดตาม ตรวจวัด และเฝ้าระวังความสอดคล้องจากการปฏิบัติงาน

นโยบายการกลับเข้ามาทํางานภายหลังการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทํางาน

        กรรมการผู้จัดการได้กำหนดและประกาศให้พนักงานทุกคนใน บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด รับทราบ และถือปฏิบัติโดยทั่วกันเกี่ยวกับนโยบายการกลับเข้ามาทำงานหลังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากการทำงาน การบาดเจ็บ การเจ็บป่วยจากการทำงาน และการเจ็บป่วยด้วยโรคอันเนื่องมาจากการทำงาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

     ทางบริษัทฯ มีหน้าที่ในการจัดเตรียมสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานโดยปราศจากความเจ็บป่วยและการบาดเจ็บตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้  การกลับมาทำงานก่อนกำหนดโดยได้รับหน้าที่รับผิดชอบตามเดิมสำหรับพนักงานที่บาดเจ็บนั้น หากพนักงานไม่มีความพร้อมที่จะทำงานเดิมได้ ทางบริษัทฯได้เตรียมโปรแกรม/แผนงานเพื่อรองรับพนักงานที่ได้รับเจ็บป่วยนั้นกลับมาอีกครั้ง โดยอาจจะมีหน้าที่งานเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพร่างกายที่พนักงานคนนั้นสามารถทำได้  สำหรับพนักงานที่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากการทำงานแล้วกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ทางบริษัทจะพยายามจัดหาตำแหน่งหน้าที่งานใหม่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพนักงานที่ไม่สามารถกลับไปทำงานเดิมได้  ซึ่งอาจจะรวมถึงการจัดหาที่พักสำหรับพนักงาน และการสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งงาน หน้าที่รับผิดชอบชั่วคราว ตามความพร้อมของร่างกายและความสามารถของพนักงานคนนั้นๆ ทั้งนี้ บริษัทฯคาดหวังว่าพนักงานจะได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วมในโปรแกรมหรือแผนงานนี้เป็นอย่างดี เพื่อจะนำไปพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป

แนวทางการปฏิบัติ

  • จัดให้มี RTW Monitoring สำหรับพนักงานที่เกิดการบาดเจ็บ และเจ็บป่วยที่มีความประสงค์กลับเข้ามาทำงาน
  • ให้คำแนะนำ คำปรึกษา เกี่ยวกับการบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยนั้น ด้วยทีมพยาบาลประจำโรงงาน
  • รณรงค์ให้มีการออกกำลังกายก่อนเริ่มงาน

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล     
    
     บริษัท เอ็กซ์เพิททีม จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือทำธุรกรรมกับบริษัท จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจนและเหมาะสม ดังต่อไปนี้    
     
ขอบเขตการบังคับใช้ (Scope of this Privacy Policy)    
     นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลบังคับใช้กับการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน ซึ่งหมายถึงพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้างงานแบบระบุระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา พนักงานชั่วคราว และผู้รับเหมา รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามบริษัท(ถ้ามี)    

 
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (Collection of Personal Data)    
     บริษัทจะดำเนินการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท เท่านั้น       
    
     บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญํติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้  

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปที่บริษัทจัดเก็บ เช่น    
    
-    ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ตำแหน่งงานประวัติการศึกษา ข้อมูลการทำงาน ประวัติการฝึกอบรม ข้อมูลผลงานต่างๆ  ข้อมูลตามสำเนาเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
   
-    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ และข้อมูลอื่นที่บริษัทสามารถติดต่อได้ เป็นต้น
    
-    ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลตามสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
    
-    ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐาน หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองสำนักงาน ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญจ่าย และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจ เป็นต้น
    
-    ข้อมูลด้านเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time)  ข้อมูลที่ถูกค้นหาหรือเข้าชม  ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
    
-    บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) บันทึกเสียงการสนทนา หรือข้อมูล
    
-    อื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้
    
     ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งหมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของเจ้าของข้อมูล ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เช่น ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพสแกนใบหน้า ข้อมูลศาสนาหรือหมู่เลือดตามที่ปรากฏรวมอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (หากมี)   ข้อมูลประวัติอาชญากรรมรวมถึงความผิดที่ถูกกล่าวหาหรือฟ้องร้องดำเนินคดี ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเชื้อชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกรณีอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด    
        
     ในกรณีการทำธุรกรรมหรือการทำสัญญา หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบันแก่บริษัทอาจส่งผลกระทบต่อท่านที่อาจไม่สามารถทำธุรกรรมกับบริษัท หรืออาจไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาที่มีอยู่กับบริษัท และอาจทำให้ท่านได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ท่านหรือบริษัทต้องปฏิบัติตาม    
    
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล    
    
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีการเก็บรวบรวมและได้รับข้อมูล มีดังนี้    
    
-    บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ โดยผ่านเว็บไซต์บริษัท หรือช่องทางอื่นที่บริษัทจัดเตรียมไว้ เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัท เมื่อท่านส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัท หรือเมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัททางโทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ทางไปรษณีย์ ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท การใช้คุกกี้ (Cookies) ที่อยู่ไอพี เป็นต้น
    
-    บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกหรือจากแหล่งที่มาอื่น เช่น หน่วยงานราชการ เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เว็บไซต์กรมสรรพากร เว็บไซต์อื่น ๆ เป็นต้น
    
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Purpose of Collection and Use of Personal Data)    

     บริษัทจะดำเนินการเก็บรวมรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น    
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัท กับคู่สัญญาใด ๆ รวมถึงการดำเนินการของบริษัทให้เป็นไปตามสัญญา     
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการลงทะเบียนคู่สัญญารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่าง ๆ ของคู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
    
-    เพื่อบันทึกการตั้งเจ้าหนี้ของบริษัท การออกใบแจ้งหนี้ การออกใบกำกับภาษี การทำเครดิตบูโรของบริษัท การทำการเบิกจ่ายเงิน รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ และการดำเนินการทางบัญชีของบริษัท
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของท่าน กรณีเข้าใช้งานบริการต่าง ๆ การทำสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว รวมถึงการสื่อสารทั้งหมดของบริษัทมีความปลอดภัยและเป็นความลับ
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารหรือประสานงานในการดำเนินงานหรือภารกิจของบริษัทกับบุคคลภายนอก  ผู้รับเหมา หรือคู่สัญญา 
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจดทะเบียนทางธุรกิจต่าง ๆ ต่อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า การแจ้งขึ้นทะเบียนบุคลากรหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย การจัดทำรายงานภาษียื่นต่อกรมสรรพากร การตรวจสอบทางบัญชีโดยผู้สอบบัญชี เป็นต้น
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรมของบริษัท เช่น การอบรม การจัดประชุม การสัมมนา โครงการของบริษัท การจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นต้น
   
-    เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมโครงการ ผู้เข้าร่วมประชุม ผู้เข้าร่วมอบรม หรือผู้เข้าร่วมสัมมาของบริษัทรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว
    
-    เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการด้านสุขภาพ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยของผู้รับเหมา การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งการตรวจสุขภาพทั่วไปและการตรวจสุขภาพอาชีวอนามัย (การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง) การทำประกันสุขภาพ และการประเมินความพร้อมด้านสุขภาพ รวมถึงใช้เป็นข้อมูลสำหรับการรายงาน การสอบสวน การวิเคราะห์หาสาเหตุหรือพัฒนาการบริหารจัดการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health) และกำหนดมาตรการในการแก้ไขป้องกันอุบัติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
    
-    เพื่อป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายที่อาจแพร่เข้ามาภายในบริษัท โดยการคัดกรองบุคคลที่เข้าและออกในสถานที่ รวมถึงการติดตามและจัดให้มีการรายงานการเดินทางที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรคได้
    
-    เพื่อการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการเข้าและออกเพื่อปฏิบัติงานในสถานที่ของบริษัท การแลกบัตรเข้าออกอาคารหรือสถานที่ของบริษัท และการบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือบริษัท หรือบริเวณพื้นที่โดยรอบด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
    
-    เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น
     
-    เพื่อการตรวจสอบหรือตรวจประเมินภายในของบริษัทให้เป็นไปตามมาตรฐานในการดำเนินงานและให้เป็นไปตามข้อกำหนดหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
      
-    เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลภายในบริษัทและการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงปลอดภัยในระบบของบริษัท
    
-    บริษัทจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม เว้นแต่
    
      1    ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    
      2    เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Disclosure of Personal Data)    

-    บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอมและจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้
     
-    บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้
    
-    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย
    
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Retention)    

     บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่านหรือตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์หรือสิ้นสุดสัญญากับบริษัท หรือไม่มีการใช้บริการหรือการทำธุรกรรมบริษัทแล้ว บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดหลังจากนั้น หรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามนโยบายการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Data Retention Policy) ของบริษัท ซึ่งอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดได้ในกรณีที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด    
    
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Security of Personal Data)    

-    บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย ระเบียบ ข้อกำหนด และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
    
-    บริษัทสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและ มีประสิทธิภาพ
    
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)    

     เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้    

-    สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
   
-    สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม/ใช้/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
    
-    สิทธิขอให้ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล 
    
-    สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    
-    สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม/ใช้/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
    
-    สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง 
    
-    สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
    
การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Review and change of Privacy Policy)    

     บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน     
    
6.3)    ช่องทางการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน (Contact of Complaint)

     ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนดไว้ โดยต้องระบุรายละเอียดของเรื่องที่แจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ส่งมายังช่องทางรับเรื่อง 
  
6.4)    การดำเนินการสืบสวนและบทลงโทษ (Conducting Investigations and Penalties)
หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลเบาะแสหรือร้องเรียน กรรมการบริษัทที่ทำหน้าเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ จะต้องดำเนินการตรวจสอบในทันทีโดยไม่ชักช้า ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการสืบสวนและพิจารณาบทลงโทษ ดังนี้    
    
     เมื่อได้รับการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน กรรมการผู้จัดการ กรรมการบริษัท จะเป็นผู้กลั่นกรอง สืบสวนข้อเท็จจริง และแจ้งผลเป็นระยะให้กับผู้แจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ทราบ  หากการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ข้อมูลหรือหลักฐานที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาได้กระทำการไม่สอดคล้องตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติตามพันธสัญญานี้กำหนดไว้ บริษัทฯ จะให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ตนเอง โดยการหาข้อมูลหรือหลักฐานเพิ่มเติมที่แสดงให้เห็นว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ถูกกล่าวหานั้น  หากผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำการที่ไม่สอดคล้องตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติตามพันธสัญญานี้กำหนดไว้จริง ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องได้รับการสอบสวนและพิจารณาโทษทางวินัยตามกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานที่บริษัทฯ ตามได้กำหนดไว้ และหากการกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้กระทำผิดนั้นอาจจะต้องได้รับโทษทางพันธสัญญา    
    
     กรณีการนโยบายและแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการทุจริตและการให้หรือรับสินบน บริษัทฯ จะไม่มีนโยบายลดตำแหน่ง ลงโทษ ให้ออกจากงาน หรือได้รับผลกระทบทางลบอื่นๆที่ตามมาจากการปฏิเสธในการเข้าร่วมต่อการทุจริตและการให้หรือรับสินบน  แม้ว่าการปฏิเสธดังกล่าวอาจส่งผลให้บริษัทฯ สูญเสียโอกาสทางธุรกิจก็ตาม    
    
6.5)    มาตรการคุ้มครองและรักษาความลับ (Protection and Confidentiality Measures)
บริษัทฯ จะปกปิดและเก็บความลับของข้อมูลที่จะสามารถระบุตัวผู้ให้เบาะแสหรือข้อร้องเรียนในการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องตามนโยบายและแนวทางการปฏิบัติตามพันธสัญญาฉบับนี้  โดยจำกัดการเข้าถึงข้อมูลผู้ให้เบาะแสหรือร้องเรียนเฉพาะคณะกรรมการตรวจสอบที่ดำเนินการรับผิดชอบสืบสวนเท่านั้น เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามที่พันธสัญญากำหนด รวมถึงการคุ้มครองผู้ให้เบาะแสหรือร้องเรียน พยาน และบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงโดยไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน อันตราย หรือความไม่ชอบธรรมอันเกิดมาจากการให้ข้อมูลและสนับสนุนเบาะแสหรือร้องเรียน    
    
    
    
    

Lap